เปิดมิติ สู่โลกแห่งตำนาน พาไปส่อง 'พิพิธภัณฑ์ครุฑ' หนึ่งเดียวในอาเซียน - นิราศเช็คอิน


         ๏ เมื่อบ้านฉันร้อนจัดกว่านรก         กลัวสลบล้มหมอนนอนเป็นผี

อยากจะหาที่เย็นเข้าให้เปรมปรีดิ์            รีบจรลีเปิดกูเกิ้ลหาที่ไป

ที่เข้าฟรีติดแอร์มีไหมนะ                         อุ๊ยตายละ!เจอพิพิธภัณฑ์ใหม่

ว่าด้วยเรื่องของครุฑผู้เกรียงไกร             เดินทางไปเข้าสู่โลกปกรณัม ๚ะ



         สวัสดีค่าาา วันนี้จะขอพาทุกคนมาเช็คอินกันที่พิพิธภัณฑ์ครุฑค่ะ ที่นี่จัดตั้งขึ้นโดยธนาคารทหารไทยธนชาต เค้าพาเรามาเปิดเตำนานพญาครุฑที่ที่ไหนๆเค้าก็ไม่ทำกัน สิ่งที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ การจัดแสดงองค์ครุฑปลดประจำการจากยอดตึกธนาคารหลายๆสาขาทั่วประเทศกันเลยทีเดียว ส่วนรายละเอียดของพิพิธภัณฑ์จะมีอะไรบ้างนั้นก็เข้าไปดูกันเลยค่า


เข้ามาในโถงต้อนรับ ก็จะมีประวัติของพิพิธภัณฑ์ที่เค้าตังใจนำเสนอเรื่องราวของครุฑโดยเฉพาะเลย ใช้เวลาเตรียมการมาเป็นสิบปีแล้วค่ะ ไม่ได้เปิดมาเล่นๆนะเธอ 


ในโซนถัดมาระหว่างที่เรารอรอบเข้าชม ก็จะมี QR โค้ดให้สแกนเพื่อเปิดกล้องถ่ายรูป พร้อมกับแอนิเมชั่น AR ของพิพิธภัณฑ์ อลังการมากกกกกกกกกก


ถึงเวลารอบชอบของเรา เจ้าหน้าที่จะพาเราเข้าห้องเปิดตำนานพญาสุบรรณ ดูวีดีโอประวัติความเป็นมาและตำนานต่างๆที่เกี่ยวกับครุฑ 

และพาเราเข้าไปสู่วิมานฉิมพลี ที่อยู่ในป่าหิมพานต์ อันเป็นที่อยู่อาศัยของครุฑนั่นเองค่ะ โซนนี้วู้ว้าวอลังการมากๆเลยนะคะ เค้าจำลองป่าหิมพานต์และสัตว์ในวรรณคดีขึ้นมาให้เหมือนกับว่าเราทะลุไปอีกมิตินึงจริงๆ 

ดูบ้านครุฑเสร็จก็ไปดูบ้านนาคกันต่อ มุดลงบาดาลในมหานทีสีทันดรเพื่อมาเยี่ยมชมคู่รักคู่แค้นอย่างนาค


พร้อมฟังตำนานของท่า ครุฑยุดนาค เป็นท่าประจำที่เราเห็นในสถาปัตยกรรมบ่อยๆ เมื่อมีครุฑและนาคมาอยู่ด้วยกัน


ต่อมาก็จะเป็นเรื่องราวที่ว่าทำไมครุฑถึงเป็นตัวแทนของความซื่อสัตย์และกตัญญู เมื่อครุฑไปทำศึกชิงน้ำอมฤทธิ์กับพระนารายณ์ และสุดท้ายเกิดเป็นปรางค์พระนารายณ์ทรงสุบรรณ กับเรื่องราวครุฑในชีวิตจริง ที่มีหลักฐานมาตั้งแต่สมัยโบราณทั้งในและต่างประเทศที่เราจะเห็นครุฑเป็นสัตว์เชิงสัญลักษณ์ทางสังคมมาจนถึงทุกวันนี้


และโซนสุดท้าย คือครุฑที่ปลดประจำการจากทุกสารทิศในไทย เดินทางมาโชว์ตัวให้เราได้ดูกันค่ะ ทุกๆองค์ล้วนผ่านหน้าที่กันมาอย่างยาวนาน และความพิเศษของครุฑที่เราไม่เคยสังเกตเลยคือ ครุฑแต่ละองค์ไม่มีความเหมือนกันเลย ทั้งวัสดุที่เอามาทำ หน้าตา ผ้านุ่ง และรายละเอียดต่างๆตามแต่คนสร้างจะทำ มันเลยเป็นสเน่ห์อย่างนึงที่ทำให้เราเดินดูได้อย่างเพลินๆเลยล่ะค่ะ


ใครที่สนใจอยากจะไปดู เค้าเปิดให้ชมเฉพาะวันศุกร์และเสาร์ มีวันละ 3 รอบเข้าชมนะคะ ถ้ากลัวพลาดก็สามารถเข้าไปจองก่อนได้ที่ https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSdW3izP6mnGoJETqaryFSV8YYnTS6ZXkQJy_ORFgTkc1u7O6A/viewform


ส่วนการเดินทาง จะค่อนข้างลึกลับซับซ้อนหน่อยแต่ก็ไปไม่ยากเลยค่ะ เข้ากูเกิ้ลแมพพิมพ์ว่า พิพิธภัณฑ์ครุฑ (https://goo.gl/maps/L7aeEqq8rWxKhGHu6) หรือไม่ก็คีย์พิกัด 13.53214,100.67987 ต้องขับรถเข้าไปอย่างเดียวนะคะ ไม่มีรถประจำทางไปถึงเลย แต่ถ้าหากใครไม่สะดวกจะใช้รถส่วนตัว ก็สามารถนั่ง BTS มาลงสถานีเคหะและต่อรถของทางพิพิธภัณฑ์เข้าไปได้ค่ะ สะดวก สบาย แต่อย่าลืมจองก่อนเข้าไปนะคะ ไม่งั้นไม่มีที่นั่งแน่นอน

        สำหรับพิพิธภัณฑ์นี้เอาจริงๆ ก็เป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆที่ดูไม่ค่อยจะมีอะไร แต่ด้วยความที่เราได้มาเห็นได้มาชม แสงสีเสียงและการจัดแสดงนิทรรศการต่างๆมันทำให้เราเข้าใจเรื่องราวต่างๆได้สนุกขึ้น และเกร็ดความรู้ต่างๆอีกมากมายที่ไม่ไปก็คงไม่รู้อย่างแน่นอน 

สุดท้ายตัวอิฉันเอง ก็หนีความร้อนนรกในบ้านตัวเองได้แล้ว เย็นกายสบายใจแล้วก็ต้องขอตัวลากลับบ้านไปก่อนนะคะ ใครที่สนใจก็อย่าลืมหาเวลาไปเยี่ยมชมกันบ้าง แล้วจะรู้ว่าที่นี่ก็ไม่ใช่ย่อยเลยทีเดียว ส่วนตอนนี้ ก่อนที่จะร้อนไปมากกว่านี้ อิฉันต้องไปก่อนละค่ะ บ๊ายบายยยยย ๚ะ๛

ความคิดเห็น